วันพุธที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2554

โลกยุคโลกาภิวัฒน์

โลกยุคโลกาภิวัฒน์

โลกาภิวัฒน์ ในคำภาษาอังกฤษคือ Globalization หรือ Globalisation เข้าใจในความหมายโดยทั่วไปว่า โลกไร้พรมแดน

โลกาภิวัฒน์
โลกาภิวัตน์ คือ ผลจากการพัฒนาการติดต่อสื่อสาร การคมนาคมขนส่ง และเทคโนโลยีสารสนเทศ อันแสดงให้เห็นถึงการเจริญเติบโตของความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การเมือง เทคโนโลยี และวัฒนธรรมที่เชื่อมโยงระหว่างปัจเจกบุคคล ชุมชน หน่วยธุรกิจ และรัฐบาล ทั่วทั้งโลก

การสร้างความเข้มแข็งของชุมชนในกระแสโลกาภิวัตน์
กระแสโลกาภิวัตน์ก่อให้เกิดสิ่งที่น่ากลัวและสิ่งที่เป็นโอกาสเช่นกัน
ในมิติทางด้านวัฒนธรรม กระแสโลกาภิวัตน์ทำให้ทุกคนต้องทาน McDonald อย่างอเมริกา ถ้าเรามีจุดยืนทางวัฒนธรรมที่แข็งแรง เราก็สามารถทำอย่าง McDonald ได้ ทุกคนมาเมืองไทยต้องมาดื่มด่ำกับวัฒนธรรมไทย ถ้าเราเข้มแข็งพอ กระแสโลกาภิวัตน์ก็คือโอกาส
ในมิติทางด้านเศรษฐกิจ กระแสโลกาภิวัตน์ทำให้เกิดการลงทุน ทำให้เกิดการจ้างงาน แต่ในทำนองเดียวกัน กระแสเงินทุนที่ไหลเข้าออกเร็วก็ให้เกิดความเสี่ยงกับประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจอ่อนแอ การลงทุนในภาคอุตสาหกรรม ทำให้วิถีชีวิตของคนเปลี่ยนไป คนหนุ่มสาวหายไปจากหมู่บ้าน ไปทำงานโรงงาน บางทีก็ไปอยู่โรงงานต่างถิ่นด้วยซ้ำไป
ในมิติทางด้านการเมือง กระแสโลกาภิวัตน์ทำให้เราไม่สามารถดำเนินนโยบายโดยอิสระได้ ต้องฟังเสียงองค์กรระหว่างประเทศ ฟังเสียงประเทศอื่น

ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.panuathai.or.th

ความคิดเห็นส่วนตัว

ดิฉันเห็นว่าโลกในปัจจุบันเป็นโลกยุคโลกาภิวัฒน์อย่างแท้จริง จะเห็นได้ว่ามีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งน่าจะเกิดจากการขยายตัวของเศรษฐกิจมากที่สุดและทำให้เทคโนโลยีในปัจจุบันก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น ตามความคิดของดิฉันเห็นว่าถึงโลกจะเจริญก้าวหน้าไปเพียงใดแต่จิตใจและจิตสำนึกที่ดีของคนกลับลดต่ำลงมีแต่ความเห็นแก่ตัวและน้ำใจจะหาได้ยากมากในปัจจุบัน ซึ่งน่าจะเกิดจากการแข่งขันกันอย่างรุนแรงในสภาพสังคมและเศรษฐกิจในปัจจุบัน

สังคมโลกยุคโลกาภิวัตน์

สังคมโลกยุคโลกาภิวัตน์